เมืองของพวกเลวี

35 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสในที่ราบโมอับริมแม่น้ำจอร์แดน ตรงข้ามเมืองเยรีโค[a]ว่า “จงสั่งชนอิสราเอลให้ยกเมืองบางเมืองและทุ่งหญ้าโดยรอบจากมรดกที่ชาวอิสราเอลครอบครองให้แก่ชนเลวี เมืองเหล่านี้จะเป็นที่พักอาศัยของพวกเขา และทุ่งหญ้าซึ่งอยู่รายรอบสำหรับฝูงสัตว์ของเขา

“ทุ่งหญ้าของชนเลวีมีระยะห่างประมาณ 450 เมตร[b] จากกำแพงเมืองทั้งสี่ด้าน ฉะนั้นจะมีอาณาเขตด้านทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตกด้านละประมาณ 900 เมตร[c]โดยมีเมืองอยู่ใจกลาง พวกเขาจะได้ใช้พื้นที่นี้เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์สำหรับเมืองนั้นๆ

เมืองลี้ภัย(A)

“เจ้าจงยกเมืองหกแห่งให้แก่คนเลวี เพื่อเป็นเมืองลี้ภัยสำหรับผู้ที่ทำให้คนตายโดยไม่เจตนาจะหนีไปลี้ภัย นอกจากนั้นจงยกเมืองต่างๆ ให้อีก 42 เมือง เจ้าต้องยกเมืองให้ชนเลวีรวมทั้งหมด 48 หัวเมืองและทุ่งหญ้าโดยรอบ เมืองที่เจ้ายกให้คนเลวีจากดินแดนที่คนอิสราเอลครอบครองจะต้องเป็นไปตามสัดส่วนของมรดกในแต่ละเผ่า คือเผ่าที่มีมากก็ให้มาก แต่เผ่าที่มีน้อยก็ให้น้อย”

แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 10 “จงบอกชนอิสราเอลว่า ‘เมื่อพวกเจ้าข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าสู่คานาอันแล้ว 11 จงกำหนดเมืองลี้ภัยไว้ เพื่อผู้ที่ทำให้คนตายโดยไม่เจตนาจะหนีเข้าไปพักพิง 12 เมืองเหล่านี้จะเป็นที่หลบหนีจากการแก้แค้นจากญาติของผู้ตาย เพื่อไม่ให้จำเลยตายก่อนที่จะถูกไต่สวนต่อหน้าชุมนุมประชากร 13 เมืองทั้งหกแห่งนี้จะเป็นเมืองลี้ภัย 14 โดยมีสามแห่งตั้งอยู่ในดินแดนคานาอันและอีกสามแห่งอยู่ที่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน 15 เมืองลี้ภัยทั้งหกแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่หลบภัยของชาวอิสราเอลเท่านั้น แต่สำหรับคนต่างด้าวและผู้สัญจรอีกด้วย เพื่อว่าใครก็ตามที่ได้ฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาจะได้หนีไปที่นั่น

16 “ ‘แต่ผู้ใดใช้เหล็กฟาดผู้อื่นตาย เขาเป็นฆาตกรและต้องถูกประหาร 17 หรือหากผู้ใดใช้ก้อนหินทุบผู้อื่นตาย เขาเป็นฆาตกรและต้องถูกประหาร 18 หรือหากผู้ใดใช้ไม้ตีผู้อื่นตาย เขาเป็นฆาตกร และต้องถูกประหารเช่นกัน 19 ผู้แก้แค้นจะสังหารฆาตกรได้เมื่อพบตัว 20 หากผู้ใดจงใจผลักหรือขว้างสิ่งใดใส่ผู้อื่นด้วยความมุ่งร้าย ทำให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย 21 หรือหากผู้ใดชกต่อยผู้อื่นจนตายด้วยความโกรธ เขาเป็นฆาตกร ผู้แก้แค้นจะฆ่าเขาได้เมื่อพบตัว

22 “ ‘แต่หากผู้ใดผลักหรือขว้างปาสิ่งใดใส่ผู้อื่นโดยไม่เจตนา ไม่ได้ทำด้วยความเกลียดชัง 23 หรือทำก้อนหินตกใส่ผู้อื่นโดยไม่เจตนา ไม่เห็น และไม่ได้เป็นศัตรูกัน เป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย 24 ชุมนุมประชากรจะต้องตัดสินความระหว่างบุคคลนั้นกับผู้แก้แค้นตามกฎระเบียบเหล่านี้ 25 ชุมนุมประชากรต้องปกป้องผู้ถูกกล่าวหาจากผู้แก้แค้น และส่งเขากลับไปยังเมืองที่เขาไปลี้ภัยนั้น และเขาต้องอยู่ที่นั่นจวบจนมหาปุโรหิตผู้ได้รับการเจิมด้วยน้ำมันบริสุทธิ์สิ้นชีวิตลง

26 “ ‘แต่หากผู้ถูกกล่าวหาหนีออกจากเมืองลี้ภัย 27 และผู้แก้แค้นพบเขานอกเมืองนั้นและฆ่าเขาไม่ถือเป็นการฆาตกรรม 28 เพราะผู้ถูกกล่าวหาต้องพักอยู่ในเมืองลี้ภัยจวบจนมหาปุโรหิตสิ้นชีวิตเท่านั้น หลังจากนั้นเขาจึงสามารถกลับภูมิลำเนาเดิมของตน

29 “ ‘นี่เป็นข้อกำหนดตามกฎหมายสำหรับเจ้าทั้งหลายสืบไปทุกชั่วอายุ ไม่ว่าเจ้าจะอาศัยอยู่ที่ไหน

30 “ ‘ฆาตกรทุกคนจะถูกประหารก็ต่อเมื่อมีพยานมากกว่าหนึ่งปาก หากมีพยานกล่าวหาเพียงปากเดียว จำเลยไม่ต้องถูกประหาร

31 “ ‘อย่ารับค่าไถ่ชีวิตของฆาตกรผู้สมควรตาย เขาจะต้องถูกประหารอย่างแน่นอน

32 “ ‘และอย่ารับค่าไถ่จากผู้ที่หนีไปอยู่ในเมืองลี้ภัย เพื่อให้เขากลับภูมิลำเนาก่อนมหาปุโรหิตสิ้นชีวิต

33 “ ‘อย่าทำให้แผ่นดินที่เจ้าอยู่แปดเปื้อนมลทิน เพราะการฆาตกรรมทำให้แผ่นดินแปดเปื้อน และไม่อาจชำระมลทินให้แผ่นดินได้ นอกจากใช้เลือดของฆาตกร 34 เจ้าอย่าได้สร้างมลทินแก่แผ่นดินที่เจ้าอาศัยอยู่และที่เราสถิตอยู่ เพราะเราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่ท่ามกลางชนอิสราเอล’ ”

Footnotes

  1. 35:1 ภาษาฮีบรูว่าจอร์แดนแห่งเยรีโคอาจจะเป็นชื่อโบราณของแม่น้ำจอร์แดน
  2. 35:4 ภาษาฮีบรูว่า 1,000 คิวบิท
  3. 35:5 ภาษาฮีบรูว่า 2,000 คิวบิท

เมืองของชาวเลวี

35 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสส ณ ที่ราบโมอับ ริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดนที่ฝั่งตรงข้ามกับเยรีโคว่า “จงบัญชาให้ชาวอิสราเอลยกเมืองที่ได้รับเป็นมรดกแบ่งให้แก่ชาวเลวีบ้าง เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของพวกเขา และจงยกทุ่งหญ้ารอบๆ เมืองเหล่านั้นให้แก่ชาวเลวีด้วย เมืองเหล่านั้นจะได้เป็นที่อยู่อาศัย ในขณะที่ทุ่งหญ้าเอาไว้สำหรับสัตว์เลี้ยง ฝูงแพะแกะ และสัตว์อื่นๆ ทั้งหมดของพวกเขา ส่วนที่เป็นทุ่งหญ้าของเมืองที่เจ้ายกให้ชาวเลวีจะห่างออกไปจากกำแพงเมือง 1,000 ศอกโดยรอบ และจงวัดส่วนที่อยู่นอกเมือง ทางทิศตะวันออก 2,000 ศอก ทางทิศใต้ 2,000 ศอก ทางทิศตะวันตก 2,000 ศอก และทางทิศเหนือ 2,000 ศอก โดยมีตัวเมืองอยู่ตรงกลาง ส่วนนี้จะเป็นทุ่งหญ้าสำหรับเมืองของชาวเลวี

เมืองที่พวกเจ้ายกให้แก่ชาวเลวีจะเป็นเมืองลี้ภัย 6 เมืองเพื่อให้ฆาตกรหลบหนีไปอยู่ได้[a] นอกจากนี้แล้ว เจ้าจงยกเมืองอื่นให้อีก 42 เมือง รวมทุกเมืองที่พวกเจ้ายกให้แก่ชาวเลวีได้ 48 เมือง พร้อมกับทุ่งหญ้าให้พวกเขาด้วย เมืองที่ชาวอิสราเอลเป็นเจ้าของ และเจ้ายกให้แก่ชาวเลวีนั้น ให้เป็นสัดส่วนกับมรดกที่แต่ละเผ่าได้รับ จากเผ่าใหญ่ก็เอาไปหลายเมือง และจากเผ่าเล็กก็เอาไปน้อยเมือง จงยกเมืองเหล่านั้นให้แก่ชาวเลวี”

พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า 10 “จงไปพูดกับชาวอิสราเอลและบอกเขาว่า เมื่อเจ้าข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปยังดินแดนคานาอัน 11 เจ้าจงเลือกเมืองเพื่อเป็นเมืองลี้ภัยสำหรับพวกเจ้าเอง เพื่อว่าผู้ที่ฆ่าคนโดยไม่มีเจตนาจะได้หลบหนีไปที่นั่นได้ 12 เมืองเหล่านั้นจะเป็นเมืองลี้ภัยของพวกเจ้าให้พ้นจากผู้ตามล่า เพื่อให้คนที่ถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนตายจะไม่ถูกประหารก่อนจะมีการตัดสินต่อหน้ามวลชน 13 จงยกจำนวน 6 เมืองให้เป็นเมืองลี้ภัย 14 จงยก 3 เมืองที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดน และอีก 3 เมืองในดินแดนคานาอันให้เป็นเมืองลี้ภัย 15 หกเมืองนี้จะเป็นที่ลี้ภัยสำหรับชาวอิสราเอล ชาวต่างแดน และผู้อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเจ้าอย่างชาวต่างด้าว เพื่อให้ผู้ที่พลั้งมือฆ่าคนหลบหนีไปที่นั่นได้

16 ถ้าเขาใช้เครื่องมือเหล็กตีผู้ใดจนถึงตาย เขาก็เป็นฆาตกร เป็นฆาตกรที่ต้องถูกประหาร 17 ถ้าเขาใช้ก้อนหินในมือที่สามารถฆ่าคนได้ทุบผู้ใดและผู้นั้นถึงตาย เขาก็เป็นฆาตกร ฆาตกรจะต้องถูกประหาร 18 หรือถ้าเขาใช้ไม้ในมือที่สามารถฆ่าคนได้ ฟาดใส่ผู้ใดและผู้นั้นถึงตาย เขาก็เป็นฆาตกร ฆาตกรจะต้องถูกประหาร 19 ตัวผู้ตามล่าล้างแค้นเองจะประหารฆาตกร เมื่อเขาพบตัวก็จะประหารเขา 20 และถ้าคนที่ผลักเขาด้วยความเกลียดชัง หรือดักซุ่มเพื่อขว้างอาวุธใส่เขาจนถึงตาย 21 หรือด้วยความแค้นเขาใช้หมัดชกต่อยจนถึงตาย คนที่ทำให้คนตายต้องถูกประหาร เขาเป็นฆาตกร ผู้ตามล่าล้างแค้นจะประหารฆาตกรเมื่อเขาพบตัว

22 แต่ถ้าเขาผลักผู้ใดด้วยความรู้สึกชั่ววูบ โดยไม่มุ่งร้าย หรือขว้างอาวุธใส่เขาโดยไม่ได้ดักซุ่มอยู่ 23 หรือเนื่องจากมองไม่เห็นตัวเขา และใช้ก้อนหินที่เป็นอันตรายจนถึงตายได้ตกลงบนตัวเขาพอดีจนเขาต้องตาย ทั้งที่เขาไม่ใช่ศัตรู และไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเขา 24 มวลชนจะต้องตัดสินระหว่างฆาตกรและผู้ตามล่าล้างแค้นตามกฎเหล่านี้ 25 และมวลชนจะต้องคุ้มครองคนที่ถูกกล่าวหาว่าฆ่าคน ให้พ้นจากผู้ตามล่าล้างแค้น และมวลชนจะให้เขากลับไปยังเมืองลี้ภัยที่เขาหลบหนีไปอยู่ และเขาจะอาศัยอยู่ที่นั่นจนกว่าหัวหน้ามหาปุโรหิตที่ได้รับการเจิมด้วยน้ำมันบริสุทธิ์จะเสียชีวิตก่อน 26 แต่ถ้าเมื่อใดที่ฆาตกรก้าวออกจากเขตเมืองลี้ภัยซึ่งเป็นที่เขาหลบหนีไปอาศัยอยู่ 27 และผู้ตามล่าล้างแค้นพบเขาที่นอกเมืองลี้ภัย และถ้าผู้ตามล่าล้างแค้นฆ่าผู้ถูกกล่าวหา เขาก็จะไม่มีความผิด 28 เพราะว่าผู้นั้นต้องอยู่ในเมืองลี้ภัยจนกว่าหัวหน้ามหาปุโรหิตจะเสียชีวิตก่อน แต่หลังจากการตายของหัวหน้ามหาปุโรหิต ผู้ถูกกล่าวหาจึงจะกลับไปยังดินแดนซึ่งเขาเป็นเจ้าของได้ 29 สิ่งเหล่านี้จะเป็นกฎเกณฑ์แห่งโทษทัณฑ์ของทุกชาติพันธุ์ของพวกเจ้า ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม

30 ถ้าผู้ใดฆ่าคน ฆาตกรจะต้องถูกประหารในกรณีมีพยานเกิน 1 คนยืนยันเท่านั้น อย่าให้มีผู้ใดถูกประหารเนื่องจากคำให้การของพยานเพียงคนเดียว[b] 31 ยิ่งกว่านี้ เจ้าอย่ารับค่าไถ่สำหรับชีวิตของฆาตกรที่มีความผิดต้องโทษถึงตาย เขาต้องถูกประหารแน่นอน 32 และเจ้าอย่ารับค่าไถ่จากคนที่หลบหนีไปที่เมืองลี้ภัย เพียงเพราะเขาต้องการกลับไปอยู่ในดินแดนของตนก่อนปุโรหิตจะเสียชีวิต 33 เจ้าอย่าทำให้ดินแดนที่เจ้าอาศัยอยู่เป็นมลทิน เพราะการเสียเลือดเนื้อ ทำให้แผ่นดินเป็นมลทิน และไม่มีพิธีชดใช้บาปสำหรับแผ่นดินที่มีการเสียเลือดเนื้อ นอกจากจะเป็นเลือดของผู้ที่เป็นเหตุให้เลือดหลั่ง 34 เจ้าอย่าทำให้แผ่นดินที่เจ้าอาศัย และที่ซึ่งเราพำนักอยู่เป็นมลทิน เพราะว่าเราคือพระผู้เป็นเจ้าอยู่ท่ามกลางชาวอิสราเอล”

เมืองของชาวเลวี

35 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสในที่ราบโมอับข้างแม่น้ำจอร์แดนฝั่งตรงข้ามเยริโคว่า “ให้สั่งประชาชนชาวอิสราเอลให้แบ่งเมืองที่พวกเขาได้รับมาให้กับชาวเลวีส่วนหนึ่ง รวมทั้งทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ที่อยู่รอบๆเมืองของพวกเขาเหล่านั้นด้วย พวกเลวีจะได้อยู่ในเมืองพวกนั้น และเลี้ยงวัวและสัตว์เลี้ยงของพวกเขาในทุ่งหญ้าเหล่านั้น ทุ่งหญ้าที่จะให้กับพวกเลวีนี้ เริ่มตั้งแต่กำแพงเมืองทุกๆด้าน ออกไปข้างละหนึ่งพันศอก และให้พวกเจ้าวัดออกไปสองพันศอกทั้งสี่ทิศ คือเหนือ ใต้ ออก ตก บริเวณทั้งหมดนี้จะเป็นทุ่งหญ้าของเมืองแต่ละเมืองของพวกเลวี เมืองทั้งหมดที่เจ้าให้กับชาวเลวี จะมีอยู่หกเมืองที่ใช้เป็นเมืองลี้ภัย คนที่ไปฆ่าคนตายมาโดยไม่ได้เจตนา จะได้หลบหนีไปอยู่ในเมืองพวกนั้น นอกจากหกเมืองนั้นแล้ว เจ้ายังต้องให้อีกสี่สิบสองเมืองกับชาวเลวี ดังนั้น พวกเจ้าจะต้องให้ชาวเลวีทั้งหมดสี่สิบแปดเมือง พร้อมกับทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ สำหรับเมืองต่างๆที่เจ้าจะแบ่งให้กับชาวเลวี จากที่ดินของประชาชนชาวอิสราเอลนั้น เจ้าต้องแบ่งออกมามากหน่อยจากเผ่าใหญ่ และแบ่งออกมาน้อยหน่อยจากเผ่าเล็ก แต่ละเผ่าก็จะแบ่งเมืองของตัวเองให้กับชาวเลวีตามสัดส่วนของเนื้อที่ที่พวกเขาได้รับ”

เมืองลี้ภัย

(ฉธบ. 19:1-13; ยชว. 20:1-9)

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 10 “ให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า เมื่อพวกเจ้าข้ามฝั่งแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปในแผ่นดินคานาอันแล้ว 11 ให้เลือกเมืองต่างๆขึ้นมาสำหรับพวกเจ้าเอง มันจะเป็นเมืองสำหรับลี้ภัยสำหรับตัวเจ้า ใครที่ไปฆ่าคนอื่นตายโดยไม่ได้เจตนา จะได้หนีไปอยู่ที่นั่นได้ 12 พวกมันจะเป็นเมืองสำหรับพวกเจ้าไว้ลี้ภัย จากญาติของผู้ตายที่มีหน้าที่ต้องแก้แค้นคนฆ่า คนที่ฆ่าคนอื่นตายจะไม่ถูกฆ่า จนกว่าเขาจะมายืนอยู่หน้าที่ชุมนุมเพื่อฟังการตัดสิน 13 ทั้งหกเมืองที่เจ้าให้ จะเป็นเมืองสำหรับลี้ภัยของพวกเจ้า 14 เจ้าต้องเลือกสามเมืองทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน และอีกสามเมืองในแผ่นดินคานาอันทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน มาเป็นเมืองลี้ภัย 15 เมืองทั้งหกเมืองนี้จะเป็นเมืองสำหรับลี้ภัยของประชาชนอิสราเอลและสำหรับชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ร่วมกับเจ้า คนที่ฆ่าคนตายโดยไม่ได้เจตนาสามารถหนีไปอยู่ที่นั่นได้

การตัดสินเมื่อคนถูกฆ่า

16 ถ้าเขาใช้เหล็ก[a] ตีคนอื่นจนตาย คนที่ตีจะเป็นฆาตกร ฆาตกรจะต้องถูกฆ่า 17 ถ้าเขาเอาหินในมือทุบคนอื่นจนตาย คนที่ทุบจะเป็นฆาตกรและเขาจะต้องถูกฆ่าไปด้วย 18 ถ้าเขาเอาไม้ที่อยู่ในมือตีคนอื่นจนตาย คนที่ตีเป็นฆาตกรและเขาจะต้องถูกฆ่า 19 เมื่อญาติของคนที่ตายพบฆาตกรคนนั้น เขาจะต้องฆ่าฆาตกรคนนั้น

20-21 ถ้าเขาผลักคนด้วยความเกลียดหรือขว้างสิ่งของใส่คนโดยตั้งใจจนคนนั้นตาย หรือถ้าเขาตีคนด้วยมือเพราะความเกลียดจนคนนั้นตาย คนตีจะต้องถูกฆ่าตายเหมือนกัน เพราะเขาเป็นฆาตกร ญาติคนตายต้องฆ่าฆาตกรคนนั้นเมื่อพบตัว

22 แต่ถ้าเขาผลักคนโดยไม่ได้เจตนา ไม่ได้เกลียดคนๆนั้น หรือโยนสิ่งของถูกคนโดยไม่ได้เจตนา 23 หรือทำหินหล่นใส่โดยมองไม่เห็นคนนั้น แล้วทำให้คนนั้นตาย ตัวเขาเองไม่ได้เป็นศัตรูกับคนตาย และไม่ได้เจตนาจะทำร้ายเขา 24 ถ้าเป็นอย่างนี้ ที่ชุมนุมจะเป็นผู้ตัดสินระหว่างคนฆ่ากับญาติผู้ตายตามกฎเหล่านี้ 25 ที่ชุมนุมจะเป็นฝ่ายช่วยเหลือคนฆ่าจากการกล่าวหาของญาติผู้ตาย และส่งเขากลับไปที่เมืองลี้ภัย ที่เขาได้หนีไปอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว คนๆนั้นจะต้องอยู่ในเมืองลี้ภัยนั้น จนกว่าหัวหน้านักบวชสูงสุดที่ได้รับการเจิมด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ตายลง

26-27 แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คนฆ่าออกจากเขตของเมืองลี้ภัย ที่เขาหลบเข้าไปอยู่ และญาติของคนตายไปพบเขานอกเมืองลี้ภัย ญาติคนตายสามารถฆ่าคนๆนั้นได้ โดยไม่มีความผิด 28 เพราะเขาจะต้องอยู่ในเมืองลี้ภัยจนกว่าหัวหน้านักบวชสูงสุดจะตาย หลังจากนักบวชสูงสุดตายแล้ว คนที่หลบอยู่นั้น ก็กลับไปที่ดินของเขาได้ 29 กฎเหล่านี้จะใช้ในการตัดสินสำหรับพวกเจ้าตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ในทุกที่ที่พวกเจ้าไปอยู่

30 ถ้าใครฆ่าคน ฆาตกรจะถูกฆ่าตาย ตามคำพูดของพยาน แต่ห้ามฆ่าเขาถ้ามีพยานเพียงคนเดียว

31 ห้ามรับค่าไถ่ชีวิตของฆาตกรที่ถูกตัดสินให้ถูกฆ่าแล้ว เพราะยังไง เขาก็จะต้องถูกฆ่าอยู่ดี

32 ห้ามรับค่าไถ่สำหรับคนที่หลบหนีออกจากเมืองลี้ภัยเพื่อจะไปอยู่ที่อื่น เขาจะต้องอยู่ที่นั่นจนกว่านักบวชชั้นสูงสุดจะตาย

33 อย่าให้ที่ดินของเจ้าต้องเปื้อนเลือดของผู้บริสุทธิ์ ถ้ามีคนหนึ่งไปฆ่าคนบริสุทธิ์ ไม่มีทางที่จะไถ่ให้แผ่นดินนั้นพ้นโทษได้เพราะมันเปื้อนเลือด นอกจากจะเอาชีวิตของฆาตกรคนนั้น 34 ห้ามทำให้ที่ดินที่เจ้าอาศัยอยู่ต้องแปดเปื้อน ที่ดินนั้นเป็นที่ที่เราอาศัยอยู่ เพราะเราเป็นพระยาห์เวห์ที่อาศัยอยู่ร่วมกับประชาชนชาวอิสราเอล”

Footnotes

  1. 35:16 ใช้เหล็ก แสดงว่าฆาตกรเลือกอาวุธที่เขารู้ว่าสามารถใช้ฆ่าคนได้